Menu
(Credit: Goal)
Matthijs de Ligt ได้ออกมายอมรับตามตรงว่า เขาคือคนที่ทำให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะต้องกระเด็นตกรอบไปในรายการฟุตบอลยูโร 2020
หลังจากที่ตัวเองพลาดท่าโดยไล่ออกตั้งแต่ช่วงต้นครึ่งหลัง ซึ่งจากรูปเกมในช่วงครึ่งแรกนั้น ทั้งสองทีมต่างเล่นกันได้อย่างสูสีและทางเนเธอร์แลนด์ดูจะทำเกมรุกได้น่าตื่นเต้นมากกว่า
แต่สุดท้ายการลงสนามด้วยผู้เล่นเพียง 10 คนก็ทำให้ทีมชาติสาธารณรัฐเช็กสามารถกุมความได้เปรียบและยิงได้ถึงสองประตูจนเอาชนะไป
ก่อนที่กองหลังจากยูเวนตุสจะออกมาพูดถึงความผิดพลาดแต่โดยดี
(Credit: News In 24 English)
หลังจากที่จบเกมไปด้วยความพ่ายแพ้นั้น Matthijs de Ligt ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ไว้ว่า
ทีมของเขาแพ้เพราะการตัดสินใจของเขาเองและมันก็ทำให้เขาหงุดหงิดใจอีกด้วย
จากเดิมที่ทีมเนเธอร์แลนด์สามารถครองเกมได้มากกว่า ก่อนที่บอลจังหวะนั้นจะเข้ามาและเขาก็พลาดปล่อยให้บอลกระดอนกับพื้นจนต้องเสียท่า
รวมถึงกองหลังรายนี้ยังชี้แจงอีกว่า เขาโดนเข้าปะทะจนตัวล้มลงแล้วค่อยตัดสินใจปัดบอลออกไป
ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็เปลี่ยนเกมไปอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งในช่วงท้ายเกมที่ทีมจะต้องดิ้นรนอย่างหนักก็ทำให้เขาต้องโทษตัวเองอยู่เสมอ
(Credit: Qlur)
ไม่ใช่เพียงแค่ความผิดพลาดของ Matthijs de Ligt เท่านั้นที่จะต้องชื่นชม
เพราะทีมชาติสาธารณรัฐเช็กที่เป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้อย่างแข็งแกร่งที่ผสมกับเทคนิคของพวกเขา
จนทำให้การเล่นกับทีมนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยทางกองหลังผู้โชคร้ายก็ยอมรับว่า คู่แข่งเป็นทีมที่เก่งและโอกาสชนะของทั้งสองทีมก็อยู่เท่า ๆ กัน
ก่อนที่ใบแดงของตัวเองจะทำให้เกมมันเปลี่ยนไปอีกหน้าหนึ่งเลยทีเดียว
แม้ว่าทีมชาติเนเธอร์แลนด์จะสามารถทำผลงานได้ใน ฟุตบอลยูโร รอบแบ่งกลุ่มจากการเอาชนะรวดทุกทีม
แต่การมาแพ้ในรอบ 16 ทีมแบบนี้กลับเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมากเลยทีเดียว
ส่วนทางด้าน Georginio Wijnaldum ก็ออกมายอมรับเช่นกันว่า
การที่พวกเขาเสียสมาธิไปเพียงไม่กี่วินาทีกลับทำให้ทีมต้องเสียหายจากใบแดงนั่นเอง
เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ ความผิดพลาดของ Matthijs de Ligt ได้ทำให้ทีมเนเธอร์แลนด์ถูกมองไปอีกแบบเลยก็ว่าได้
หลังจากที่ก่อนเริ่มรายการฟุตบอลยูโร 2020 พวกเขาก็ถูกมองว่า เป็นทีมที่ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอย่างในอดีต
ก่อนที่จะกลับเอาชนะคำวิจารณ์ได้จากผลงานรอบแบ่งกลุ่ม
แต่สุดท้ายก็ยังมาพลาดตกม้าตายไปอย่างน่าเสียดายในรอบ 16 ทีม
