ยูฟ่าไม่ยินยอมให้ประเทศเยอรมันฉายแสงสีรุ้งในสนาม

pride1

(Credit: FC Bayern)

ยูฟ่าได้ตกเป็นเป้าของสื่ออีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทีมชาติเยอรมันได้ทำคำขอไปยังสหพันธ์เพื่อที่จะขอฉายแสงสีรุ้งเพื่อเป็นการฉลอง Pride Month

หรือเดือนเรียกร้องสิทธิของ LGBTQ+ แต่ทว่าพวกเขากลับถูกปฏิเสธไปจากเหตุผลที่ว่า

ทางสหพันธ์ไม่ต้องการให้เรื่องการเมืองเข้ามาข้องเกี่ยวกับวงการลูกหนังนั่นเอง

ขณะเดียวกับในประเทศฮังการีที่กำลังจะต้องลงสนามแข่งกับทีมชาติเยอรมันก็มีเรื่องนโยบายที่ไม่อนุญาตให้โรงเรียนสอนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับบุคคลข้ามเพศ

จนทำให้เกิดกระแสเรียกร้องในวงการในปัจจุบันนั่นเอง

pride2

(Credit: Insider)

คำแถลงของยูฟ่าเกี่ยวกับเรื่องการเรียกร้องของ LGBTQ+

ทางยูฟ่าเองก็ได้ออกมาแถลงและยอมรับว่า เรื่องการเหยียดเชื้อชาติ การเกลียดกลัวคนที่รสนิยมไม่ตรงกับตัวเอง การกดขี่ทางเพศหรือการคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ

ถือเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลถึงวงการฟุตบอลเช่นกัน โดยพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้สังคมเสื่อมเสียทั้งในสนามและนอกสนาม

ไปจนถึงในสังคมออนไลน์ แต่ทว่าสหพันธ์เป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางการเมือง การเรียกร้องที่จะส่งผลกระทบไปยังรัฐบาลฮังการีโดยตรง

เป็นสิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องปฏิเสธไป

pride3

(Credit: Football Reporting)

โฆษกของเดเอฟเบที่ออกมาเตือนยูฟ่า

ต่อให้ยูฟ่าจะพยายามทำตัวเป็นกลางในสถานการณ์นี้เท่าไหร่ก็ตาม

แต่โฆษกของสมาคมฟุตบอลเยอรมันอย่าง Jens Grittner ก็ออกมาเตือนสหพันธ์ที่ไม่ยอมให้พวกเขาเรียกสิทธิของ LGBTQ+  

รวมถึงเปลี่ยนไฟในสนามอาลิอานซ์อารีน่าอาจทำไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีกฎในเรื่องการออกแบบสนามอยู่

โดยทางสหพันธ์ก็เป็นผู้ออกกฎให้แต่ละสนามมีเอกลักษณ์ของตัวเองและมันก็มีเหตุผลที่ดีมากมาย ก่อนที่พวกเขาอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไฟสีรุ้งนี้อีกแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ทางทีมชาติเยอรมันยังเคยมีปัญหากับทางสหพันธ์มาแล้ว หลังจากที่ Manuel Neuer ได้ใส่ปลอกแขนผู้นำทีมเป็นสีรุ้ง

ก่อนที่จะโดนกระแสกดดันจากคนทั่วไปจนกระทั่งพวกเขาจะต้องยกเลิกการสอบสวนเพื่อลงโทษผู้รักษาประตูคนนี้ในเวลาต่อมา

ส่วนทางด้านผู้มีอำนาจในเมืองมิวนิคก็ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะตกแต่งเมืองด้วยธงสีรุ้งไปทั่วสนาม

ไม่ว่าทางสหพันธ์จะตัดสินใจอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตาม

ทางยูฟ่าคงจะต้องเจอกับความกดดันไม่น้อย

เมื่อกระแสที่สนับสนุนให้คนเท่ากันได้ทำให้คนทั่วโลกหันมาตระหนักถึงสิทธิของแต่ละบุคคลไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหนหรือเพศต่าง ๆ

ทั้งคนที่เป็นชื่นชอบเพศตรงสภาพหรือ LGBTQ+ ก็นับว่า ควรมีสิทธิคุ้มครองทุกอย่างถูกต้องตามที่มนุษย์ทุกคนควรมี

ซึ่งทางทีมชาติเยอรมันก็คงมองว่า นี่ไม่ใช่เรื่องของการเมืองแต่อย่างใดนั่นเอง